ืnoohan dress shop
บทความที่ได้รับความนิยม
วันพุธที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2554
สัญญาณเตือนภัย ‘แท้ง’ ไตรมาสแรก
ภาวะแท้งบุตร คือ ภาวะที่ร่างกายของแม่ขับตัวอ่อนออกมาจากโพรงมดลูก ทำให้การตั้งครรภ์สิ้นสุดลง ภาวะนี้เกิดได้ตั้งแต่อายุครรภ์ 2-3 สัปดาห์ไปจนถึงอายุครรภ์ 28 สัปดาห์ ข้อแตกต่างระหว่างการแท้งในไตรมาสแรกกับไตรมาสที่สองและสามก็คือ การแท้งในไตรมาสแรก ตัวอ่อนมักเสียชีวิตก่อนเกิดการแท้ง
การแท้งบุตรในช่วงไตรมาสแรก กว่าร้อยละ 60 เกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรมของตัวอ่อน ทำให้เมื่อไข่ปฏิสนธิแล้ว ไม่สามารถแบ่งเซลล์หรือเจริญเติบโตต่อไปได้ ส่วนสาเหตุรองลงมา คือ ร่างกายของคุณแม่ไม่พร้อมสำหรับการตั้งครรภ์ ทำให้ตัวอ่อนไม่สามารถฝังตัวในมดลูกได้
รับมืออย่างไร เมื่อมีสัญญาณเตือนภัย ‘แท้ง’ ว่าที่คุณแม่ไตรมาสแรก อาจมีอาการปวดเกร็งท้องน้อยหรือมีเลือดออกกะปริบกะปรอยได้ เนื่องจากกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานตึงตัวมากขึ้น หรือมีเยื่อบุมดลูกลอกตัวออกมาระหว่างที่ไข่กำลังฝังตัว แต่อาการทั้งสองจะไม่เกิดพร้อมกัน
หากมีอาการเลือดออกทางช่องคลอดเล็กน้อย คุณแม่ควรนอนพักนิ่งๆ ยกขาและสะโพกให้สูง จนกระทั่งเลือดหยุดและไม่ปวดท้องแล้ว จึงค่อยไปพบแพทย์ แต่หากว่าที่คุณแม่มีอาการที่บ่งชี้ว่าเป็นสัญญาณของการแท้ง* ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
แท้งแล้ว...เมื่อไรจะมีลูกใหม่ได้อีก
แพทย์มักแนะนำให้คุณแม่ที่เพิ่งแท้งเว้นระยะการตั้งครรภ์ใหม่ประมาณ 3-6 เดือน เพื่อให้เวลาตัวเองในการฟื้นฟูร่างกายและจิตใจ แต่การวางแผนว่าจะตั้งครรภ์ใหม่เมื่อไร จะต้องพิจารณาสาเหตุการแท้งร่วมด้วยเพื่อป้องกันการแท้งซ้ำ
• กรณีที่เกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรม จะต้องหาสาเหตุและแก้ไขปัญหาเสียก่อน หากแก้ไขไม่ได้ อาจต้องลองพิจารณาการใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธ์เป็นทางเลือกต่อไป
• กรณีที่เกิดจากความผิดปกติของมดลูกหรืออาการป่วยเรื้อรัง ไม่ว่าจะเป็นภาวะมีเนื้องอกหรือพังผืดในโพรงมดลูก, มดลูกเอียงหรือบาง, โรคปอด หรือภาวะทุพโภชนาการ ฯลฯ คุณแม่จะต้องรับการรักษาเพื่อให้สามารถตั้งครรภ์ได้ตามปกติเสียก่อน
• กรณีที่เกิดจากคู่สมรส เช่น โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ว่าที่คุณพ่อเองก็ต้องรักษาโรคให้หายขาด และงดเว้นการมีเพศสัมพันธ์กับหญิงอื่นที่ไม่ใช่ภรรยา เพื่อป้องกันไม่ให้ติดเชื้อมาสู่คุณแม่
ระหว่างช่วงเว้นระยะการตั้งครรภ์ใหม่ คุณแม่ควรบำรุงร่างกายให้แข็งแรง ทำจิตใจให้แจ่มใส ช่วงนี้ควรงดสูบบุหรี่หรือดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ รวมถึงงดมีเพศสัมพันธ์ไปก่อน หากจะมีเพศสัมพันธ์ ก็ควรเริ่มหลังจากแท้งบุตรประมาณ 6 สัปดาห์ และเลือกวิธีคุมกำเนิดที่เหมาะสม เช่น การใช้ถุงยางอนามัย ซึ่งช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้โดยไม่ส่งผลต่อร่างกายของคุณแม่
ทำใจให้ได้ เริ่มต้นกันใหม่ หลังแท้งเมื่อเกิดความหวังขึ้นแล้วดับลงไป ทุกคนย่อมรู้สึกผิดหวัง กรณีของการแท้งบุตร อดีตว่าที่คุณแม่มักโทษว่าเป็นความผิดของตน ทั้งที่ความจริงแล้ว การแท้งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้กับหลายๆ คน ไม่ใช่ความผิดของผู้ใดผู้หนึ่ง
คุณแม่ผู้สูญเสียควรทำใจให้สบาย มองโลกแง่บวกว่า การแท้งเป็นกลไกธรรมชาติ เมื่อตัวอ่อนมีความผิดปกติมากๆ หรือการตั้งครรภ์ไม่สมบูรณ์ จนร่างกายต้องขับออกมา ย่อมดีกว่าจะอุ้มท้องต่อไปจนเป็นอันตรายทั้งคุณแม่และทารก
การแท้งเป็นความสูญเสียร่วมกันของทุกคนในครอบครัว สมาชิกในครอบครัว รวมถึงคนใกล้ชิดควรให้กำลังใจคุณแม่ หากแก้ไขปัญหาที่สาเหตุและดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจของคุณแม่ให้แข็งแรงพร้อม การตั้งครรภ์ครั้งใหม่ก็คงไม่นานเกินรอ
การแท้งบุตรในช่วงไตรมาสแรก กว่าร้อยละ 60 เกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรมของตัวอ่อน ทำให้เมื่อไข่ปฏิสนธิแล้ว ไม่สามารถแบ่งเซลล์หรือเจริญเติบโตต่อไปได้ ส่วนสาเหตุรองลงมา คือ ร่างกายของคุณแม่ไม่พร้อมสำหรับการตั้งครรภ์ ทำให้ตัวอ่อนไม่สามารถฝังตัวในมดลูกได้
รับมืออย่างไร เมื่อมีสัญญาณเตือนภัย ‘แท้ง’ ว่าที่คุณแม่ไตรมาสแรก อาจมีอาการปวดเกร็งท้องน้อยหรือมีเลือดออกกะปริบกะปรอยได้ เนื่องจากกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานตึงตัวมากขึ้น หรือมีเยื่อบุมดลูกลอกตัวออกมาระหว่างที่ไข่กำลังฝังตัว แต่อาการทั้งสองจะไม่เกิดพร้อมกัน
หากมีอาการเลือดออกทางช่องคลอดเล็กน้อย คุณแม่ควรนอนพักนิ่งๆ ยกขาและสะโพกให้สูง จนกระทั่งเลือดหยุดและไม่ปวดท้องแล้ว จึงค่อยไปพบแพทย์ แต่หากว่าที่คุณแม่มีอาการที่บ่งชี้ว่าเป็นสัญญาณของการแท้ง* ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
แท้งแล้ว...เมื่อไรจะมีลูกใหม่ได้อีก
แพทย์มักแนะนำให้คุณแม่ที่เพิ่งแท้งเว้นระยะการตั้งครรภ์ใหม่ประมาณ 3-6 เดือน เพื่อให้เวลาตัวเองในการฟื้นฟูร่างกายและจิตใจ แต่การวางแผนว่าจะตั้งครรภ์ใหม่เมื่อไร จะต้องพิจารณาสาเหตุการแท้งร่วมด้วยเพื่อป้องกันการแท้งซ้ำ
• กรณีที่เกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรม จะต้องหาสาเหตุและแก้ไขปัญหาเสียก่อน หากแก้ไขไม่ได้ อาจต้องลองพิจารณาการใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธ์เป็นทางเลือกต่อไป
• กรณีที่เกิดจากความผิดปกติของมดลูกหรืออาการป่วยเรื้อรัง ไม่ว่าจะเป็นภาวะมีเนื้องอกหรือพังผืดในโพรงมดลูก, มดลูกเอียงหรือบาง, โรคปอด หรือภาวะทุพโภชนาการ ฯลฯ คุณแม่จะต้องรับการรักษาเพื่อให้สามารถตั้งครรภ์ได้ตามปกติเสียก่อน
• กรณีที่เกิดจากคู่สมรส เช่น โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ว่าที่คุณพ่อเองก็ต้องรักษาโรคให้หายขาด และงดเว้นการมีเพศสัมพันธ์กับหญิงอื่นที่ไม่ใช่ภรรยา เพื่อป้องกันไม่ให้ติดเชื้อมาสู่คุณแม่
ระหว่างช่วงเว้นระยะการตั้งครรภ์ใหม่ คุณแม่ควรบำรุงร่างกายให้แข็งแรง ทำจิตใจให้แจ่มใส ช่วงนี้ควรงดสูบบุหรี่หรือดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ รวมถึงงดมีเพศสัมพันธ์ไปก่อน หากจะมีเพศสัมพันธ์ ก็ควรเริ่มหลังจากแท้งบุตรประมาณ 6 สัปดาห์ และเลือกวิธีคุมกำเนิดที่เหมาะสม เช่น การใช้ถุงยางอนามัย ซึ่งช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้โดยไม่ส่งผลต่อร่างกายของคุณแม่
ทำใจให้ได้ เริ่มต้นกันใหม่ หลังแท้งเมื่อเกิดความหวังขึ้นแล้วดับลงไป ทุกคนย่อมรู้สึกผิดหวัง กรณีของการแท้งบุตร อดีตว่าที่คุณแม่มักโทษว่าเป็นความผิดของตน ทั้งที่ความจริงแล้ว การแท้งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้กับหลายๆ คน ไม่ใช่ความผิดของผู้ใดผู้หนึ่ง
คุณแม่ผู้สูญเสียควรทำใจให้สบาย มองโลกแง่บวกว่า การแท้งเป็นกลไกธรรมชาติ เมื่อตัวอ่อนมีความผิดปกติมากๆ หรือการตั้งครรภ์ไม่สมบูรณ์ จนร่างกายต้องขับออกมา ย่อมดีกว่าจะอุ้มท้องต่อไปจนเป็นอันตรายทั้งคุณแม่และทารก
การแท้งเป็นความสูญเสียร่วมกันของทุกคนในครอบครัว สมาชิกในครอบครัว รวมถึงคนใกล้ชิดควรให้กำลังใจคุณแม่ หากแก้ไขปัญหาที่สาเหตุและดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจของคุณแม่ให้แข็งแรงพร้อม การตั้งครรภ์ครั้งใหม่ก็คงไม่นานเกินรอ
ภาวะเลือดออกขณะตั้งครรภ์
ปัญหาเลือดออกขณะตั้งครรภ์เป็นปัญหาที่พบไดและสร้างความกังวลแก่คนตั้งครรภ์ไม่น้อย สาเหตุที่มีพบมีได้หลายอย่าง ถ้าเลือดออกไม่มากก็จะหยุดเอ็งได้ บางชนิดอาจจะอันตรายต่อมารดาและเด็ก จะแบ่งเลือดออกขณะตั้งครรภ์เป็น |
- เลือดออกในระยะแรกของการตั้งครรภ์โดยเฉพาะใน 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ ์อาจจะมีเลือดออกเล็กน้อยได้แพทย์อาจจะตรวจหาระดับฮอร์โมน hcg และตรวจ ultrasound เพื่อหาสาเหตุของเลือดออกซึ่งอาจจะพบหรือไม่พบสาเหตุก็ได้
- การแท้งบุตร การมีเลือดออกเป็นสัญญาณเตือนของการแท้งบุตรโดยมากพบใน 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์พบได้ประมาณร้อยละ20ของการตั้งครรภ์ ถ้าหากท่านมีเลือดออกทางช่องคลอดร่วมกับการปวดท้องน้อยและมีเนื้อเยื่อออกทางช่องคลอดแสดงว่าแท้งบุตร เมื่อท่านไปพบแพทย์อย่าลืมนำเนื้อเยื่อนั้นไปด้วยเพื่อที่แพทย์จะได้พิจารณาว่าเนื้อเยื่อออกหมดหรือยัง เพราะหากมีเนื้อเยื่อตกค้างไว้จะทำให้เลือดออกไม่หยุดแพทย์จะพิจารณาขูดมดลูก การแท้งไม่สามารถป้องกันได้เป็นกลไกในการขับการตั้งครรภ์ที่ไม่สมบูรณ์ออกมา ยังไม่มีหลักฐานว่าเกิดจากการร่วมเพศหรือการออกกำลังกาย แต่ถ้าหากท่าน 2-3 ครั้งแพทย์จะตรวจหากความผิดปกติ
- การตั้งครรภ์นอกมดลูก เกิดจากตัวอ่อนฝังตัวนอกรังไข่โดยเฉพาะในท่อรังไข่ ผู้ป่วยจะมีอาการปวดท้องน้อย เลือดออกช่องคลอด ถ้าเลือดออกในช่องท้องมากจะมีอาการอ่อนเพลีย เป็นลมจำเป็นต้องได้รับการรักษาโดยรีบด่วนปัจจัยเสี่ยงได้แก่ ผู้ที่เป็นโรคช่องเชิงกรานอักเสบ เคยผ่าตัดท่อรังไข่ เคยตั้งครรภ์นอกมดลูกมาก่อน การทำแท้งจะเสี่ยงต่อภาวะนี้
- ตั้งครรภ์ไข่ปลาอุ Molar Pregnancy ,มีการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่ออื่นมิใช่ทารก การรักษาโดยการดูดและขูดมดลูก
- เลือดออกในช่องหลังเดือนที่ 3 อาจจะเกิดจากปากมดลูกอักเสบธรรมดา หรือมีโรคที่ต้องรีบให้การรักษาโดยรีบด่วนA รกเกาะปกติ B รกเกาะต่ำD รกลอกก่อนกำหนด
- รกลอกก่อนคลอด placetal abruption คนปกติหลังคลอดรกจึงจะลอกออกจากมดลูกภาวะนี้รกจะลอกก่อนคลอดผู้ป่วยจะปวดท้อง เลือดออก มักจะเกิดในกลุ่มผู้ป่วยเหล่านี้คือ ในผู้ที่เคยคลอดบุตรมาก่อน อายุมากกว่า 35 ปี หรือเคยรกลอกก่อนกำหนด
- รกเกาะต่ำ placeta previa คือภาวะที่รกเกาะบริเวณปากมดลูก มักจะมีเลือดออกโดยที่ไม่มีอาการเจ็บปวด มักเกิดในผู้ที่เคยผ่าตัดมดลูกหรือตั้งครรภ์แผดจะมีโอกาสภาวะนี้
- คลอดปกติ เมื่อใกล้คลอดคนท้องแก่จะมีการเปลี่ยนแปลงของตกขาวคือมีปริมาณมากขึ้น บางรายมีเลือด มีอาการปวดหน่วงท้องน้อย ปวดหลัง ปวดท้องเป็นพักๆความรุนแรงและความถี่จะเพิ่มขึ้น
- ตั้งครรภ์ไข่ปลาอุ Molar Pregnancy ,มีการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่ออื่นมิใช่ทารก การรักษาโดยการดูดและขูดมดลูก
ประสบการณ์การแท้งลูก ที่ไม่อยากให้เกิด
ดิฉันแต่งงานมา2ปีกว่าแล้ว แต่ยังไม่ได้ลูก ไปปรึกษาหมอจีน หมอให้ยาต้มมากิน บำรุงร่างกาย กินได้ 2เดือน ก็หยุด ที่หยุดเพราะเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมที่กรุงเทพ ไม่สามารถเดินทางไปซื้อยาได้ ทำให้ต้องหยุดกินยา หลังจากหยุดยาได้ประมาณ2 เดือน เดือนที่3 ประจำเดือนไม่มา เลยกำหนด 3วัน ดิฉันซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจ ปรากฎว่าขึ้น 2 ขีด แต่ขีดที่ 2 มันจางไม่ได้เข้ม ดิฉันก็นึกดีใจ พอมีหวังแล้ว รออีก 4 วันค่อยตรวจใหม่ ระหว่างนั้น ดิฉันมีอาการปวดท้องน้อย ปวดไม่มาก ปวดสลับกันซ้ายบ้างขวาบ้าง และมีอาการปวดหลัง เอว และต้นขาร่วมด้วย หลังจากนั้น อีก 4 วัน ดิฉันนั้งมอไซด์รับจ้างไปส่งของที่ไปรษณีย์ หลังจากส่งเสร็จกลับมาบ้าน ง่วงนอนก้เลยนอน นอนได้ซักพัก ตื่นมารู้สึกปวดท้องมาก ปวดเหมือนจะเป็นลม และปวดร้าวไปถึงด้านหลัง ดิฉันจึงไปหาหมอ ระหว่างทางที่ไป มีเลือดซึมออกมาทางช่องคลอด แต่ไม่มาก เมื่อถึงโรงพยาบาล ให้หมอตรวจ เล่าอาการให้หมอฟัง หมอตรวจภายใน ตรวจปัสสาวะ และเลือด ขณะตรวจภายใน ตรวจปัสสาวะและเลือดผลออกมา ว่าท้อง แต่ตรวจภายใน ไม่พบถุงตั้งครรภ์ และยังพบถุงน้ำที่รังไข่ข้างซ้าย แต่คุรหมอบอกว่า ถุงนี้ไม่อันตรายมันจะฝ่อไปเอง และคุณหมอก็วินิจฉัยว่าอาจจะตั้งครรภ์นอกมดลูก รอดูอาการที่โรงพยาบาล คืนหนึ่ง แล้วพรุ่งนี้เ้ช้า ซาวด์ใหม่อีกครั้งหนึ่ง พอพรุ่งนี้เช้าซาวด์ใหม่ กับคุณหมออีกท่านหนึ่ง ปรากฏว่า พบถุงการตั้งครรภ์แล้ว และยังพบอีกว่า ดิฉันมีมดลูก2 อัน ถุงตั้งครรภ์อยู่ที่โพรงมดลูกซ้าย ดิฉันดีใจมาก ดิฉันตั้งครรภ์ได้ 5 สัปดาห์ และคุณหมอบอกว่า อาการของดิฉันเป็นภาวะแท้งคุกคาม ให้นอนพักผ่อนอยางเดียว ห้ามทำอะไร กลับมาบ้าน ก็มีเลือดออกกะปิกกะปอย แต่ไม่มาก เป็นแบบนี้ อยู่ 2 วัน วันที่3 มีอาการปวดท้องเหมือนปวดประจำเดือน และมีเลือดออกมาเยอะเหมือนประจำเดือน และมีเศษคล้ายพุงปลาออกมาด้วย ดิฉันจึงไปหาหมอ หลังจากหมอตรวจดูแล้ว ปรากฏว่า ดิฉันแท้งลูกแล้ว แท้งครบ ดิฉันเสียใจมาก แต่ก็ทำใจ เดี๋ยวเอาใหม่ ตอนนี้ก็บำรุงร่างกาย เพื่อที่เตรียมพร้อมที่จะมีลูกอีกครั้ง
ดิฉันก็หวังว่า ในไม่ช้าคงจะท้องอีก เพราะตอนนี้อยากมีลูกมาก กำลังใจ กำลังใจ และกำลังใจ
ดิฉันก็หวังว่า ในไม่ช้าคงจะท้องอีก เพราะตอนนี้อยากมีลูกมาก กำลังใจ กำลังใจ และกำลังใจ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)